top of page

5.ข้อ ควรรู้ก่อนเทรด

ndfxinvestor

5.ข้อ ควรรู้ก่อนเทรด เราทีมงาน Nd Investor อยากจะแชร์ประสบการณ์ที่เคยผ่านมาในตลาด Forex รวมถึงตลาดอื่นๆ เราลองผิดลองถูกกับทุกวิธีการ ทุกสูตรน้ำจิ้มที่จะช่วยให้เราได้กำไร ผู้อ่านคงจะเคยเห็นผ่านหูผ่านตากันมาบ้างกับการโชว์กำไรที่มหาศาล แต่ไม่ยั่งยืนพอถึงจุดที่กลยุทธ์ใช้ไม่ได้กับตลาดก็แพ้ตามๆกัน รู้สึกเสียดายเงินไหมครับ ทำงานมาด้วยความยากลำบาก ต้องใช้เวลาอันมหาศาลแลกกับเงินจำนวณนั้นมา แล้วเสียมันไปเพียงไม่กี่เดือน หรือในเคสแย่สุดเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์ ใช่ครับแล้วนี่ก็คือความตลกร้ายของตลาด Forex รวมถึงตลาดอื่นๆด้วย ในบทความนี้ เพียง 5.ข้อ ผมหวังว่าจะช่วยให้ทั้งมือใหม่ และ มือเก่าที่ยังไม่ประสบความสำเร็จกับตลาดนี้ได้

1.การเลือกโบรกเกอร์

โบรกเกอร์เป็นความเสี่ยงอันดับต้นๆ ที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องเจอ แล้วเลือกให้เป็น

ก่อนที่จะดูอย่างอื่นผมขอแนะนำให้ผู้อ่าน เลือกโบรกเกอร์จากความมั่นคงก่อนเป็นอันดับแรก ด้วยการตรวจสอบ license และRegulate การจดทะเบียนและการควบคุมโบรกเกอร์ ค้นหาข้อมูลสถานที่การจดทะเบียนและการควบคุมสามารถทำได้ง่ายๆโดยพิมพ์ชื่อโบรก .... และตามด้วย license , regulate ใน Google ครับ

ต่อมาขึ้นอยู่กับความสะดวกสบายของผู้ใช้บริการอย่างเรา เช่นการฝาก – ถอน มีรองรับธนาคารในไทยหรือไม่ มีแพทฟอร์มที่ง่ายต่อการใช้งาน แล้วมีการสอนใช้งานแพทฟอร์มหรือไม่

และสุดท้าย ภาษา ครับถ้าหากมีภาษาไทยด้วยจะง่ายต่อการติดต่อ หากเราเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา

2.การเลือกบัญชีให้ปลอดภัยกับเงินทุน

ตลาด Forex หรือตลาดค่าเงินเป็นตลาดขนาดใหญ่ ระดับทั่วโลก มีเงินหมุนเวียนในตลาด 3.3 ล้านล้านเหรียญต่อวัน ดังนั้นไม่แปลก ที่ขนาดบัญชี จะมีขนาดใหญ่ โดยโบรกเกอร์จะแบ่งขนาดบัญชีไว้ให้เราเลือกได้ แต่บางโบรกเกอร์ก็ไม่แบ่งหรือมีแต่แบบStandard เท่านั้นครับ โดยขนาดบัญชีจะมีดังนี้

2.1 Standard = 1 : 100,000 Unit

และบัญชีประเภทอื่นๆ โบรกเกอร์สามารถกำหนดมาตราส่วนได้เอง เช่น Micro 1 : 1,000 Unit

ในบทความนี้ผมขอยกตัวอย่างบัญชีประเภท Standard ขึ้นมาเอ่ยถึงว่ามันมีความสำคัญอย่างไร

ตัวเลข 1 : 100,000 unit หมายความว่า

1 Lot(ขนาดสัญญาการเทรด) = 100,000 Unit(หุ้น, ออนซ์, บาเรล, ฯลฯ)

ตัวอย่าง ประเภทสินทรัพย์ Forexเงิน EURUSD ราคา Bid ณ ปัจจุบันที่ผมนั่งเขียนบทความนี้อยู่คือ 1.12986 ถ้าผู้อ่านสังเกตจากชื่อสินทรัพย์ ผู้อ่านจะเห็นว่าตลาด Forexได้นำสกุลเงินมาเปรียบเทียบกัน โดยความหมายก็คือ EUR/USD = 1/1.12986 ถ้าจะซื้อ 1 EUR ตอนนี้ผู้อ่านจะต้องใช้เงิน 1.12986 USD นั่นเอง

หรือความหมายในการเก็งกำไรคือ ถ้าผู้อ่านเปิดสถาณะ Buy หมายความว่า ผู้อ่านซื้อ EUR มาเก็บไว้ในพอร์ต และ มองว่า USD จะอ่อนลงจึงขายออก ทำไมความหมายจึงเป็นแบบนี้หนะหรอ เพราะว่า ถ้า USD อ่อนลงจริง เราจะต้องใช้เงิน USD แลกกับ 1 EUR มากขึ้นตัวเลขบนกราฟ จะต้องเพิ่มขึ้น แล้ว กราฟก็จะเป็นขาขึ้น ในสถาณะ Buy นั้นที่ผู้อ่านเปิดไว้ก็จะได้กำไร

แล้ว 100,000 Unit มีความสำคัญอย่างไร

100,000 unit คือขนาดหรือปริมาณของสัญญานั้นๆ ที่เราซื้อเข้ามา เช่น เราซื้อ1 Lot(สัญญา)ใน EURUSD ราคา 1.12986 จะได้ดังนี้ 100,000 x 1.12986 x 1 = 112,986 $ นั่นคือ ต้นทุนที่เราต้องจ่ายต่อ1 สัญญา แล้วตลาด Forex ใจดีครับ เขาให้ซื้อขั้นต่ำได้ 0.01 Lot(สัญญา) เราลองคำนวณอีกครั้ง

100,000 x 1.12986 x 0.01 = 1,298.6 $ โอ้วต้นทุนลดลงมากเลย ยังไม่พอตลาด Forex ยังมีการให้Leverage หรือการกู้ยืมนั่นเอง หมายความว่าผู้อ่านไม่ต้องใช้เงินจำนวณที่เต็มเม็ดเต็มหน่วยในการซื้อ/ขาย การใช้ Leverage ก็มีข้อดีและก็มีข้อเสียควรจะศึกษา Leverage และ Margins เพิ่มเติม

3.วางแผนที่จะเสียก่อนกำไร

ใช่แล้วครับผู้อ่านควรเสียก่อนกำไร โดยที่ยังไม่ได้เริ่มต้นเทรด ผู้อ่านควรจะรู้ก่อนว่า กลยุทธ์ที่ผู้อ่านได้มาหรือออกแบบมาเองนั้น ให้ % ความน่าจะเป็นที่จะชนะกี่% ถ้าหากรู้แล้วควรทำ Back Test และ Forward Test ให้ชัวร์ก่อนการลงเงินจริง ยกตัวอย่าง ระบบที่ผมใช้ มีโอกาสถูกทาง 50%

ผมมีเงินที่ได้จากการลงทุนมา1,000 $ ผมต้องขอบอกก่อนว่าผมลงทุนและเทรดในตลาด Forex ดังนั้นการลงทุนของผมคือซื้อเต็มจำนวณโดยไม่ Stop loss เพราะผมเชื่อว่า ราคา Forex มีโอกาสเป็นไปได้ยากที่จะเป็น 0 แต่ในบทความนี้ขอยกตัวอย่างการเทรดครับ ผมจด 1,000$ ไว้ใน Excel เลยว่า ผมจะเทรดเดือนละ 30 Orders ซื้อ/ขาย ขนาดสัญญาที่ 0.01 Lot และจะยอมแพ้เมื่อผิดทางน้อยกว่าหรือเท่ากับ100 pips หรือ1,000 point โดยที่ 1 pip = 10 point นะครับ เจ้าตัว point เนี่ยส่วนมากจะพบเจอในโบรกเกอร์ที่ให้บริการราคาแบบมี 5 จุดทศนิยม ทศนิยมหลักที่ 5 คือ point และหลักที่ 4 คือ pips ครับ

ต่อในเรื่องของวางแผนที่จะเสีย ถ้าในเคสที่แย่ที่สุดเดือนนั้นผมเทรด 30 Orders ขาดทุนหมดเลย 1,000$ ผมจะเหลือเงิน 700$ ขาดทุน 300$ เห็นไหมครับว่าผมยังมีเวลาและมีทุนเหลือที่จะปรับกลยุทธ์หรือแนวคิดเพื่อแก้ตัวใหม่ในเดือนถัดไป แล้วรู้ได้อย่างไรว่า จะขาดทุนเท่าไรอย่างที่เกริ่นไปครับ เราต้องรู้ก่อนว่าระบบของเราใช้ระยะกว้างขนาดไหน หรือเทรดใน Time Frame อะไร แล้วจากนั้นคำนวณ Pips Value โดยบทความนี้ผมขออนุญาตไม่ได้ลงลึกแต่ขอทิ้งสูตร คำนวณ Pips Value ไว้นะครับ ส่วนใครขี้เกียจคำนวณ ตามเว็บของโบรกเกอร์ จะมีเครื่องคิดเลขให้ใช้งานได้เลย

One Pip: 0.0001 Account Base Currency: EUR Currency Pair: EUR/USD Exchange Rate: 1.08962 (EUR/USD Lot Size: 1 Lot (100000 EUR) Pip Value = 0.0001 / 1.08962 * 100,000 * 1

4.การเทรดคือการเสี่ยงโชค

ผิดแล้วครับการเสี่ยงโชคเป็นเรื่องของนักพนัน ผมและผู้อ่านรู้ตัวดีว่า เราต้องเทรดเป็นธุรกิจและเลี้ยงครอบครัวได้ ดังนั้น เราต้องบังคับโชค ไม่ใช่เสี่ยงโชค การจะบังคับโชคได้นั้น ผู้อ่านควรจะมี

4.1 ความอดทนรอ รออะไร รอราคาเข้ากับกลยุทธ์ของเราครับ อย่างที่กล่าวไปในข้อ 3.เราจำเป็นต้องมีระบบเทรดเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจพร้อมกับหลักการบริหารจัดการเงินอย่างยอดเยี่ยม

4.2 วินัยยึดมั่นในกลยุทธ์ ปรับปรุง เพิ่มเติมแก้ไข เพื่อให้ผลลัพธ์ของการเทรดดียิ่งๆขึ้นไป

4.3 การบริหารจัดการหรือควบคุมอารมณ์ ความโลภความกลัวความโกรธและความใจร้อน อันตรายกับตลาดมาก

4.4 สำคัญที่สุดครับ ทำต่อเนื่อง ทำซ้ำได้ ข้อนี้สามารถแยกได้เลยว่า เทรดเดอร์นั้นทำซ้ำได้ตามกลยุทธ์เรื่อยๆ แต่นักพนันทำซ้ำไม่ได้นั่นมันก็คือการเสี่ยงโชคครับ

5.ความขี้เกียจกับสูตรน้ำจิ้ม

เดินทางมาถึงข้อสุดท้าย ข้อนี้ผมทีมงาน ND Investor ก่อนจะมาทำ PAMM/MAM ก็เคยติดกับดักนี้นานหลายปี ตามล่าอาจารย์ ,กูรู เก่งๆ ตามล่าสัมนาที่แจก เทมเพลต หรือ EAในช่วงหรือจังหวะนั้นผมยอมรับว่าผมเสียหมด และผมโทษ EA ห่วย การสอนห่วยใช้ไม่ได้ เป็นต้น แต่พอทำใจให้สงบแล้วคิดให้ดีดี มันเกิดจากตัวผมเอง ที่ขี้เกียจหาความรู้ ไม่รู้แม้กระทั่งการบริหารจัดการเงินและออกแบบระบบทำอย่างไร ขอยอมรับอีกครั้งถ้าวันนั้นผมไม่เสียจนเงินหมด ผมก็ไม่คิดครับ

สิ่งที่ผมอยากจะบอกจากข้อนี้ก็คือ

ตัวระบบเทรด หรือ EA ที่ผมได้มา ผมไม่รู้เลยว่ามันมี % ความน่าจะเป็นเท่าไรควรวาง R/R ratio เท่าไรดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่อันตรายมากถ้าหากเอามาใช้โดยไม่ได้รู้อะไรเลยใช้เพราะเพียงแค่เห็นคนโน้น คนนี้ทำกำไรได้เยอะ แต่ระยะยาวถ้าเราไม่รู้ สมมุติฐานหรือแนวคิดคนสร้างระบบขึ้นมาเราก็จะใช้มันแบบผิดๆ

จากประสบการณ์ของผมน่าจะลดระยะเวลาในการเรียนรู้ตลาดพร้อมกับลดการสูญเสียของผู้อ่านได้บ้างไม่มากก็น้อย สูตรสำเร็จ สูตรน้ำจิ้ม ระบบเทพ ระบบศักดิ์สิทธิ์ จอกศักดิ์สิทธิ์(Holy Grail) ไม่มีจริงครับ ความจริงคือเราไม่รู้อนาคตพฤติกรรมของตลาดเป็นแบบ Random Walk การเคยทำกำไรในอดีตไม่สามารถการันตีอนาคตได้ มีแต่ระบบการลงทุนและระบบเทรดเท่านั้นที่จะสามารถบอกเราว่า ณ เดือนนี้เป็นอย่างไร ปีนี้เป็นอย่างไร ปีหน้าควรปรับปรุงไหม เท่านั้นครับ

Holy Grail ที่ดีที่สุดมีกันทุกคนติดตัวมาตั้งแต่เกิด คือ สมอง ครับ

ถ้าหากผู้อ่าน ต้องการประหยัดเวลาที่จะศึกษา 5.ข้อนี้ให้ละเอียด เพื่อความสะดวกและรวดเร็วขึ้น

ควรจะปรับ Mind set เป็นนักลงทุนแล้วลงทุนกับเรา ศึกษาหลักการทำงาน PAMM/MAM ของเรา ND Investor เพิ่มเติม นักลงทุนจะมีความสุขไปกับการลงทุน โดยไม่ต้องมานั่งเสียใจ หรือเสียดายเงินทุนอีก

Passive income ไม่มีจริงหลังจากลงทุนกับเราแล้วควรจะเช็คผลการลงทุนและผลเทรดไปพร้อมๆกับเราได้ที่ผลการดำเนินงานในระยะของการลงทุน และหน้าพอร์ตโฟริโอในเว็บไซต์ของโบรกเกอร์

รายละเอียดการเปิดบัญชี PAMM/MAM

ช่องทางการติดต่อที่อยู่และเบอร์โทร ภายใต้เว็บไซต์นี้

 
 
 

Comments


bottom of page